วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

สรุปการทำงาน ส.1 - ส.3


http://issuu.com/punchychucream/docs/pantagarn-cru-dandelion-brand-build




        ตำแหน่งท็อปส์ชูของรองเท้า และมีอีกเชือกกลุ่บัลเล่ต์ คือรองเท้าส้นเตี้ยหรือรองเท้าดอลลี่ ได้มีชื่อเรียกมาจากรองเท้าบัลเล่ต์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีส้นเท้าบางและอ่อนนุ่มมาก มันเป็นการปรากฎตัวของรองเท้าที่มีสไตล์ โดยมีรูปแบบโดยการผูกริบบิ้นในส่วนของเล็กๆที่ผูกติดหน้ารองเท้า ซึ่งสามารถช่วยปรับให้การสวมใส่กระชับเท้ามากขึ้น
        สาระสำคัญของบัลเล่ต์ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างน้อย ตั้งแต่ ศตวรรษที่16 ซึ่งมาจากรองเท้า pompes ของสุภาพบุรุษในยุคกลางของ แฟลตบัลเล่ต์ได้เป็นที่นิยมของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ได้เอาออกมาโชว์ที่งานแฟชั่นในศตวรรษที่17 และ19 เมื่อรองเท้าส้นสูงได้เข้ามาในกลุ่มแฟชั่นโดยที่ แคเธอรีนเดอเมติขอให้รองเท้าของเธอสูงขึ้นอีกสองนิ้วที่รองเท้าแต่งงานของเธอการเพิ่มส้นเท้าได้กระจายออกไปตามหมู่แฟชั่นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ Marie Antoinette นำไปใส่เดินที่ กิโยติน โดยนำไปใส่คู่กับรองเท้าทำงาน

การศึกษาข้อมูลของรองเท้าหนัง
ข้อมูลในการทำรองเท้า
ช่างในการทำรองเท้านั้นมี 3 ประเภท
1.ช่างออกแบบรองเท้า
2.ช่างตัดเย็บรองเท้า
3.ช่างประกอบพื้นรองเท้า

วิธีการเขียนแบบ

        วิธีเขียนแบบโดยการวาดเส้นกึ่งกลางหุ่น ฝนขอบรองเท้าไปรอบๆของหุ่นเพื่อที่จะรู้ตำแหน่งของขอบรองเท้า จากนั้นนำหุ่นหันเข้ามาด้านหน้าเรา แล้วใช้สายวัดทาบลงไปแล้วขีดเส้นตรงด้วยดินสอ แล้วจากนั้นก็ใช้สายวัดวัดด้านข้างแล้วขี้เส้น ก็จะได้แบบรองเท้า ballet flats leather


การทำรองเท้า

        คิดแบบจากนั้นก็นำไปขึ้นหุ่นโดยใช้กระดาษกาวย้นในการทำจากนั้นก็วาดแบบแล้วตัดออกมาเป็นแพ็ตเทิร์นจากนั้นนำมาใส่ในกระดาษแข็งแล้วนำหนังมาตัดเป็นรูปแบบตามที่เราได้ จากนั้นเอาแบบมาเย็บเข้ารูปด้วยเครื่องจักรเย็บผ้า จากนั้นก็ทำการดึงหนังรองเท้าให้เป็นรูปทรงของรองเท้าซึ้งต้องใช้หุ่นรองเท้าในการดึงแล้วตอกตะปูลงไปเพื่อดึงหนังซึ้งต้องใช้แรงเยอะมากจึงเป็นหน้าที่ของช่างเย็บรองเท้าจากนั้นทากาว แล้วทำแผ่นยางรองเท้าโดยใช้แบบพื้นรองเท้ามาวางทาบแล้วเขียนแบบ จากนั้นเสริมแผ่นเหล็กเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นรองเท้าติดแผ่นยางเสริมขึ้นมาอีกชั้นติดที่ยางที่เราตัดมาตอนแรก แล้วนำพื้นทั้งหมดมาติดที่ตัวรองเท้า สุดท้ายดึงรองเท้าออกจากหุ้นต้นแบบ แต่หลังจากนั้นก็มาทำพื้นรองเท้า ติดแผ่นรองพื้นรองเท้าเพื่อให้ผู้ใส่ใส่สบายขึ้นแล้วนำพื้นรองเท้าไปวางก็เป็นอันเสร็จ



การดำเนินงานทางการออกแบบ (Design Procedures/Route)

1.คิด(Think/Imagin/Investigation)
2.เขียน(Write/Brief)
3.สร้างสรรค์(Create/Make/Build/Solutions)
4.สรุป(Conclusion/End การProducts/Evaluation/Implementation)




สรุปงานโดยการทำ moodbord เพื่อนำเสนอในงานออกแบบรองเท้าหนังของ DANDELION




วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

รายงานรองเท้าแบรน DANDELION

ballet flats leather


  ตำแหน่งท็อปส์ชูของรองเท้า และมีอีกเชือกกลุ่บัลเล่ต์ คือรองเท้าส้นเตี้ยหรือรองเท้าดอลลี่ ได้มีชื่อเรียกมาจากรองเท้าบัลเล่ต์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีส้นเท้าบางและอ่อนนุ่มมาก มันเป็นการปรากฎตัวของรองเท้าที่มีสไตล์ โดยมีรูปแบบโดยการผูกริบบิ้นในส่วนของเล็กๆที่ผูกติดหน้ารองเท้า ซึ่งสามารถช่วยปรับให้การสวมใส่กระชับเท้ามากขึ้น
  สาระสำคัญของบัลเล่ต์ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างน้อย ตั้งแต่ ศตวรรษที่16 ซึ่งมาจากรองเท้า pompes ของสุภาพบุรุษในยุคกลางของ แฟลตบัลเล่ต์ได้เป็นที่นิยมของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ได้เอาออกมาโชว์ที่งานแฟชั่นในศตวรรษที่17 และ19 เมื่อรองเท้าส้นสูงได้เข้ามาในกลุ่มแฟชั่นโดยที่ แคเธอรีนเดอเมติขอให้รองเท้าของเธอสูงขึ้นอีกสองนิ้วที่รองเท้าแต่งงานของเธอการเพิ่มส้นเท้าได้กระจายออกไปตามหมู่แฟชั่นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ Marie Antoinette นำไปใส่เดินที่ กิโยติน โดยนำไปใส่คู่กับรองเท้าทำงาน

การศึกษาข้อมูลของรองเท้าหนัง
ข้อมูลในการทำรองเท้า
ช่างในการทำรองเท้านั้นมี 3 ประเภท
1.ช่างออกแบบรองเท้า
2.ช่างตัดเย็บรองเท้า
3.ช่างประกอบพื้นรองเท้า

วิธีการเขียนแบบ

วิธีเขียนแบบโดยการวาดเส้นกึ่งกลางหุ่น ฝนขอบรองเท้าไปรอบๆของหุ่นเพื่อที่จะรู้ตำแหน่งของขอบรองเท้า จากนั้นนำหุ่นหันเข้ามาด้านหน้าเรา แล้วใช้สายวัดทาบลงไปแล้วขีดเส้นตรงด้วยดินสอ แล้วจากนั้นก็ใช้สายวัดวัดด้านข้างแล้วขี้เส้น ก็จะได้แบบรองเท้า ballet flats leather


การทำรองเท้า

คิดแบบจากนั้นก็นำไปขึ้นหุ่นโดยใช้กระดาษกาวย้นในการทำจากนั้นก็วาดแบบแล้วตัดออกมาเป็นแพ็ตเทิร์นจากนั้นนำมาใส่ในกระดาษแข็งแล้วนำหนังมาตัดเป็นรูปแบบตามที่เราได้ จากนั้นเอาแบบมาเย็บเข้ารูปด้วยเครื่องจักรเย็บผ้า จากนั้นก็ทำการดึงหนังรองเท้าให้เป็นรูปทรงของรองเท้าซึ้งต้องใช้หุ่นรองเท้าในการดึงแล้วตอกตะปูลงไปเพื่อดึงหนังซึ้งต้องใช้แรงเยอะมากจึงเป็นหน้าที่ของช่างเย็บรองเท้าจากนั้นทากาว แล้วทำแผ่นยางรองเท้าโดยใช้แบบพื้นรองเท้ามาวางทาบแล้วเขียนแบบ จากนั้นเสริมแผ่นเหล็กเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นรองเท้าติดแผ่นยางเสริมขึ้นมาอีกชั้นติดที่ยางที่เราตัดมาตอนแรก แล้วนำพื้นทั้งหมดมาติดที่ตัวรองเท้า สุดท้ายดึงรองเท้าออกจากหุ้นต้นแบบ แต่หลังจากนั้นก็มาทำพื้นรองเท้า ติดแผ่นรองพื้นรองเท้าเพื่อให้ผู้ใส่ใส่สบายขึ้นแล้วนำพื้นรองเท้าไปวางก็เป็นอันเสร็จ


ดำเนินงานทางการออกแบบ (Design Procedures/Route)


1.คิด(Think/Imagin/Investigation)
2.เขียน(Write/Brief)
3.สร้างสรรค์(Create/Make/Build/Solutions)
4.สรุป(Conclusion/End การProducts/Evaluation/Implementation)




สรุปรายงานใน moodbord







วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รายงานโครงงานกลุ่ม

จากที่ได้ไปหาข้อมูลเพื่่อทำงานออกแบบ วันนี้เป็นวันสรุปผลงานที่ได้ทำมาทั้งหมด
กลุ่มที่ 2 รองเท้าหนังจระเข้เผือก

          ได้เริ่มศึกษาเริ่มตั้งแต่ ส.1 คือการศึกษาข้อมูลของรองเท้าหนัง ว่ารองเท้าที่ทำจากหนังนั้นแบ่งออกเป็นกี่ประเภทและความต้องการของผู้ประกอบการนั้นต้องการทำให้เรานั้นออกแบบรองเท้าซึ้งเราได้
แบ่งการออกแบบเป็นรองเท้าชาย หญิง เด็ก 


ภาพที่ 1 :  ภาพบอร์กการศึกษางานรองเท้าหนังทั้งหมด
ที่่มา: นางสาว พันธกานต์ ตั้งวศินธรรม,2556

            หนังจากศึกษางานเรียบร้อยแล้วพวกเราก็ได้ออกแบบร่างงานเพื่อทำรองเท้าของแต่ละประเภทว่ามีรูปอย่างไร
    

ภาพที่ 2 :  ภาพแบบร่างของรองเท้า
ที่่มา : นางสาวสิริมณี แก้วลาน ,2556

           ภาพนี้คือแบบร่างรองเท้าหนังที่เป็นของผู้ใหญ่ซึ่งการเขียนร่างนั้นต้องบอกขนาดและรูปทรงของรองเท้าได้อย่างชัดเจนเพื่อทำการผลิต


ภาพที่ 3 :  ภาพแบบร่างของรองเท้า
ที่่มา : นางสาว ภคพร พันสีดา ,2556

   
           ภาพนี้คือแบบร่างรองเท้าหนังที่เป็นของเด็กซึ่งการเขียนร่างนั้นต้องบอกขนาดและรูปทรงของรองเท้าได้อย่างชัดเจนเพื่อทำการผลิต

           เมื่อออกแบบรูปร่างแล้วจากนั้นก็ต้องมีรูปแบบเพื่อการผลิตรูปแบบนั้นต้องแสดงถึงส่วนต่างๆที่จะประกอบรองเท้าให้ผู้ผลิตนั้นรูปว่ามีสิ้นส่วนไหนบ้างและต้องเย็บติดกับชิ้นส่วนใด

ภาพที่ 4 :  ภาพรูปแบบของรองเท้า
ที่่มา : นางสาว พันธกานต์ ตั้งศินธรรม ,2556

           เมื่อมีรูปแบบแล้วเราก็สามารถทำรองเท้าตัวอย่างหรือโมเดลให้กับผู้ผลิตได้ดูเป็นตัวอย่างของงานออกแบบของรองเท้าแต่ละประเภท จากนั้น ส3 ก็ทำการสรุปงานที่ได้ทำมาทั้งหมด


ภาพที่ 5 :  บอร์ดแสดงผลงานรองเท้าหนังที่ได้ออกแบบของแต่ละประเภท
ที่่มา : นางสาว พันธกานต์ ตั้งศินธรรม ,2556


ภาพที่ 6 :  บอร์ดแสดงผลงานรองเท้าหนังที่ได้ออกแบบของแต่ละประเภท
ที่่มา : นางสาว ภคพร พันสีดา ,2556



ภาพที่ 7 :  บอร์ดแสดงผลงานรองเท้าหนังที่ได้ออกแบบของแต่ละประเภท
ที่่มา : นางสาว กิรตภัส  ,2556


ภาพที่ 8 :  บอร์ดแสดงผลงานรองเท้าหนังที่ได้ออกแบบของแต่ละประเภท
ที่่มา : นางสาว ชลธิชา อุปลี  ,2556


ภาพที่ 9 :  บอร์ดแสดงผลงานรองเท้าหนังที่ได้ออกแบบของแต่ละประเภท
ที่่มา : นางสาวสิริมณี แก้วลาน ,2556

           จากนั้นก็ทำการนำเสนองานเพื่อนำเสนองานที่เราได้ทำมาทั้งว่าทำรองเท้ารูปแบบใดและรูปแบบของการออกแบบนั้นคืออะไรโดยนำตัวอย่างงานมานำเสนอด้วย



วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำโครงงานกลุ่ม2

ตอนนี้อาจารย์ได้ให้ทำแนะนำเพื่อมาแก้ไขงานที่เราทำให้ดีมากขึ้น

โดยอาจารย์ให้แก้ไขดังนี้

1. ควรมีภาพสเก็ตในบอร์ดด้วย

2. ควรทำโมเดลของที่เราออกแบบมา

3. ทีแพ็ตเทิร์นของงาน

4. อย่างน้อยต้องมีถุงใส่เพื่อให้เห้นถึงงานกราฟิกที่เราออกแบบ


ภาพที่ 1 : ภาพบอร์ดแสดงผลงาน
ที่มา: นางสาว พันธกานต์ ตั้งวศินธรรม , 2556


               ซึ่งข้าพเจ้าได้มีแบบสเก็ตและแพ็ตเทิร์นแล้วแต่ยังไม่มีตัวโมเดลของงานเนื่องจากยังทำไม่เสร็จตอนนี้นำมาทำให้สมบรูณ์เรียบร้อยแล้วดังภาพที่ดังต่อไปนี้


ภาพที่ 1 : ภาพโมเดลที่ทำเสร็จแล้ว
ที่มา: นางสาว พันธกานต์ ตั้งวศินธรรม , 2556

               อุปกรณ์ในการทำโมเดลนั้นเน้นเป้นกระดาาอ่อนเนื่องจากตอนแรกทำด้วยกระดาษแข่งแล้วประสบปัญหาที่ตอนประกอบโมเดลนั้นลำบากและรูปทรงนั้นจัดยากจึงได้ใช้กระดาษธรรมดาในารทำโมเดลรองเท้าหนังขึ้นมา

               ซึ่งการทำโมเดลน้ันเราต้องศึกษาจากแพ็ตเทิร์นของรองเท้าของเราเสียก่อนไม่เช่นนั้นจะทำโมเดลออกมาผิดรูปร่างได้

              ถุงตอนนี้ได้ทำขึ้นมาแล้วแต่ยังไม่ทำเป็นโมเดลขึ้นมาจึงยังไม่มีรูปมาให้ได้เห็นกัน




               

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำโครงงานกลุ่ม

ศึกษามาในการทำงานออกแบบรองเท้า ให้กับตำบล จรเข้เผือก
ขั้นแรกคือการ sketch แบบรองเท้าที่เราจะทำรองเท้าที่เราเลือกนั้นคือรองเท้า สไตร์ Oxford 
เป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่นในช่วยนี้เมืองจากลักษณ์ที่สวยและ



ภาพที่ 1 ภาพแบบ sketch รองเท้า  Oxford
ที่มา นางสาวพันธกานต์ ตั้งวศินธรรม ,2556

หลังจากที่่  sketch รองเท้า  Oxford เราก็ต้องมารุ้วิธีการทำรองเท้าว่าเขียนแบบอย่างไร
ก่อนจะมาเขียนแบบรองเท้าที่สามารถตัดได้


ภาพที่ 2 ภาพแบบ sketch รองเท้า  Oxford และโครงสร้างของรองเท้า
ที่มา นางสาวพันธกานต์ ตั้งวศินธรรม ,2556

จากภาพดังกล่าวก่อนจะมาเป็นแบบต้องทำแบบจากหุ่นรองเท้าก่อนซึ่งหุ่นรองเท้านั้นจะมีหลายขนาด
แล้วแต่คนทำจะเลือกนะค่ะ 


คลิปที่ 1 วิธีการทำรองเท้า



คลิปที่ 1 วิธีการทำรองเท้า

คลิปคือการสอนตั้งแต่การขึ้นโครงรองเท้าในแต่ละขั้นตอนค่ะ ซึงสามารถทำให้เราเข้าใจได้ว่าวิธีการ
ทำรองเท้านั้นเป็นงานทีใช้ฝีมือจริงๆ

ส่วนรวดลายนั้นเราสามารถเขียนเลือกลายได้ตามใจชอบเลยค่ะ

ภาพที่ 3 ภาพแบบรวดลาย รองเท้า  Oxford
ที่มา นางสาวพันธกานต์ ตั้งวศินธรรม ,2556

ลายรองเท้านั้นมีสองช่วงคือช่วงด้านหน้าละช่วงตัวรองเท้า และสามารถเลือกสีและหนัง
ในการทำรองเท้าได้


ภาพที่ 4 ภาพแบบสีและหนัง รองเท้า  Oxford
ที่มา นางสาวพันธกานต์ ตั้งวศินธรรม ,2556

ภาพที่ 5 ภาพแบบสีและหนัง รองเท้า  Oxford
ที่มา นางสาวพันธกานต์ ตั้งวศินธรรม ,2556




วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความคืบหน้าของการดำเนินงานกลุ่ม

             ความคืบหน้าของการดำเนินงานกลุ่ม เป็นงานสอบกลางภาคด้วยสำหรับงานครั้งนี้
งานนี้ในกลุ่มได้ทำงานออกแบบรองเท้าเพือไปนำเสนอให้กับอาจารย์ดู

สอบปฏิบัติกลางภาคเรียน การนำเสนอแนวทางการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ใหม่

             ในการนำเสนอการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ใหม่นั้นนักออกแบบต้องมีการกำหนดคุณลักษณะผลิตภัณฑ์ (Product Design Specification) โดยอาศัยข้อมูลจาก แหล่งข้อมูลต่างๆมาประกอบเช่น
1.1 ภาพรวมความต้องการของลูกค้า(Identify Customer needs)
1.2 ข้อมูลสรุปจากตัวชี้วัดและดัชนีการผลิต (Conduct Bench Marking)
1.3 การประเมินผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งขันทางการค้า(Evaluate Competitor’s Product)
1.4 การตั้งวัตถุประสงค์และเกณฑ์การออกแบบผลิตภัณฑ์(Establish and Approve Product Design Specifications):PDS ดังตัวอย่างเช่น ต้องรู้จักรายละเอียดของส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับงานที่จะออกแบบที่จะผลิตได้จริงหรือมีต้องมีความรู้กับสิ่งที่ต้องออกแบบให้ถ่องแท้ก่อน จากนั้นจึงทำการร่างแบบ วาดแบบ เขียนแบบ บอกแนวคิดที่จะสร้างสรรค์สร้างเอกสารทั้งที่เป็นภาพและข้อความประกอบความเข้าใจให้ผู้ร่วมงานได้ศึกษา ให้เข้าใจแนวคิด วิธีคิด การวิเคราะห์ สังเคราะห์ โดยสื่อสารออกมาให้ได้มากที่สุด มีคุณภาพดีที่สุด และนักออกแบบยังต้องแสดงออกซึ่งทักษะทางฝีมือ ทักษะการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือที่ตนเองถนัดที่สุดและทำได้ดีที่สุด เป็นต้น ซึ่งผลงานที่ได้ออกมาในขั้นตอนนี้ก็ได้แก่ Sketch Design Concept /Concept Render โดยอาจนำเสนอเป็นแผ่นภาพ แสดงแนวความคิดสร้างสรรค์ (Creative Ideas Moodboard) หรือตามที่อาจารย์สั่งให้ทำเป็นมู๊ดบอร์ดและจัดเก็บได้เป็นแบบดิจิตัล จัดเก็บได้ในระบบคอมพิวเตอร์ หรือเครื่อข่ายอินเตอร์เนตนั่นเอง

             จากเนื้อหาตัวอย่างที่ให้ศึกษานี้ อาจารย์มีการบ้านเป็นงานสอบกลางภาคเรียนแบบ Takehome คือให้สำหรับกลุ่มเรียน 101 และ 102 ภาคปกติ ให้นักศึกษาแต่ละคนทุกกลุ่มเรียนจัดทำ Moodboard ขนาด 50x70 cm 1 แผ่น โดยให้นำเสนอแนวคิดและแนวทางการออกแบบเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ใหม่ ในแนวทางที่แตกต่างกัน ให่แก่สินค้าหรือการบริการของผู้ประกอบการชุมชน ตามกลุ่มที่ได้นำเสนอการศึกษาข้อมูลขั้น ส.1 ไปแล้ว โดย กำหนดให้ส่งคือ กลุ่ม 101 และ 102 ส่งวันพฤหัสที่ 1 สิงหาคม 2556 ภายในเวลา 15.00 น.ส่งที่ห้องพักอาจารย์ ตึก 32 ส่วนกลุ่ม 201 ส่งภายในเวลา 19.00 น.


ถาพที่ 1 ภาพงานที่ทำ
ที่มา: นางสาว พันธกานต์ ตั้งวศินธรรม ,2556


ถาพที่ 2 ภาพงานที่ทำ
ที่มา: นางสาว พันธกานต์ ตั้งวศินธรรม ,2556

             แต่ตอนในตอนนี้ก็ยังอยุ่ในช่วงปรับปรุงแก้ไขเนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการทำงานอยู่เนื่องจากยังไม่เข้าใจในงาน


โปรแกรม ออกแบบ บรรจุภัณฑ์แบบ 3 มิติ (Package Designer)


ภาพที่ 1 รูปแบบของ โปรแกรม ออกแบบ บรรจุภัณฑ์แบบ 3 มิติ (Package Designer)



โปรแกรม ออกแบบ บรรจุภัณฑ์แบบ 3 มิติ (Package Designer) : โปรแกรมออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบ 3 มิติ (Package Designer) โปรแกรมนี้เกิดมาเพื่อโรงงานกล่องโดยเฉพาะเลยครับ มีความสามารถชนิดที่ว่าไม่แพ้ของต่างชาติเลยครับ ที่สำคัญเมนูการใช้งานทุกอย่างเป็นภาษาไทยและราคาที่ถูกกว่ามากครับ
โปรแกรมนี้ เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการสร้างแผนผังกล่อง จากขนาดของสินค้าใดๆก็ตาม โดยมีรูปแบบของกล่องให้ใช้ 65 แบบหลักๆ เช่น กล่องฝาชน (RSC) กล่องฝาเกย(OSC) หรือกล่องไดคัทแบบพื้นฐาน (Die Cut) ซึ่งสามารถที่จะสร้างแบบพิมพ์หรือจำลองแบบกล่องให้ดูกันแบบยังไม่ได้ตัดกระดาษกันเลยครับ
โปรแกรมยังมีความสามารถในการออกแบบและคำนวณหาขนาดภายในรวมของสินค้าได้อีกด้วย โดยสามารถเลือกรูปแบบการจัดเรียง จำนวนต่อชั้น วัสดุที่ใช้คั่นได้ไม่จำกัด และสามารถกำหนดได้เองอีกด้วย



ภาพที่ 2 รูปแบบของ โปรแกรม ออกแบบ บรรจุภัณฑ์แบบ 3 มิติ (Package Designer)

Program Features (คุณสมบัติ และ ความสามารถของโปรแกรมนี้) : สำหรับคุณสมบัติต่างๆของส่วนออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นดังนี้
1. ทำงานที่ความละเอียดในการแสดงผลที่ 1024 x 768 pixel ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นข้อมูลการใช้งานได้มากขึ้น
2. ปรับรูปแบบของ Interface ใหม่ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

3. เพิ่มตัวเลือกการตั้งค่าใช้งาน ทำให้สามารถออกแบบรายงาน และค่าต่างๆได้ตามที่ต้องการ

4. สามารถเลือกดูระหว่างมุมมองออกแบบ 3 มิติ และมุมมองแบบพับของบรรจุภัณฑ์

5. สามารถเลือกที่จะแสดงภาพสีหรือลายเส้นขาวดำ

6. สามารถปรับแต่งสีของบรรจุภัณฑ์ได้โดยอิสระ

7. สามารถเลือกที่จะซ่อนหรือแสดงเส้นกำกับขนาดในมุมมองแบบพับได้

8. สามารถเลือกจำนวนหลักของทศนิยมในการแสดงผลได้ตั้งแต่ 0-4 หลัก

9. สามารถย่อและขยายภาพได้

10. สามารถเลื่อนตำแหน่งของการแสดงผลได้

11. สามารถปรับผลลัพธ์ให้เป็นขนาดอย่างง่าย (โดยการปัดทศนิยมขึ้นเล็กน้อย)

12. สามารถสาธิตการทำงานดวยตัวเองได้

13. สามารถกำหนดหน่วยวัดได้โดยอิสระ

14. สามารถสำเนาภาพไปยังคลิปบอร์ดได้

15. สามารถบันทึกภาพการออกแบบและแผ่นพับเป็นแฟ้มรูปภาพได้



Pro/DESKTOP ออกแบบโครงร่างชิ้นงาน รูปทรง 3D ^_^


ภาพที่ 1 ภาพของโปรแกรม


Pro/DESKTOP เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทางการศึกษาที่ใช้สอนนักเรียนในเรื่องการออกแบบและสร้างงาน 3 มิติ ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Pro/DESKTOP นี้ง่ายต่อการใช้งาน และมีความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ของนักเรียน  โดยสามารถนำโปรแกรม Pro/DESKTOP มาเป็นเครื่องมือในการออกแบบและสร้างชิ้นงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนเอง  ซึ่งการสร้างชิ้นงานสามารถมองเห็นชิ้นงานเป็น 3  มิติเสมือนจริง  อีกทั้งนักเรียนสามารถเรียนรู้และเข้าใจการสร้างสรรค์ชิ้นงาน และออกแบบผลิตภัณฑ์ในเชิงการตลาด  หากนักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจและทักษะในการใช้โปรแกรม Pro/DESKTOP มากขึ้นจะเป็นแนวคิดและมองเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพในอนาคต เป็นวิศวกร  นักออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและนักเทคโนโลยี  เป็นต้น


             โปรแกรม Pro/DESKTOP นี้เหมาะสำหรับใช้สอนนักเรียนระดับมัธยมศึกษา วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ซึ่งใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้เพียง 2-3 สัปดาห์ก็สามารถทำความเข้าใจได้เป็นอย่างดี สำหรับการเรียนการสอนเพื่อใช้ในการสร้างชิ้นงาน/โครงงานของนักเรียน  จะใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง  ก็จัดสร้างชิ้นงานขั้นพื้นฐานได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งนักเรียนสามารถนำโปรแกรม Pro/DESKTOP นี้ไปใช้และฝึกปฏิบัติงานที่บ้านได้ด้วยตนเอง  ซึ่งจะทำให้นักเรียนเกิดความชำนาญในการใช้โปรแกรม Pro/DESKTOP เพิ่มขึ้น


โปรแกรม Pro/DESKTOP ทำอะไรได้บ้าง

              โปรแกรม Pro/DESKTOP สามารถใช้ฝึกทักษะและสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ  เช่น

1.      การออกแบบโครงร่างชิ้นงาน

2.      การทำรูปทรง  3 มิติ ต่าง ๆ

3.      การออกแบบทางด้านวิศวกรรม  สถาปัตยกรรม

4.      การออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

5.      การออกแบบชิ้นงาน   Animation

6.      การจัดทำภาพฉาย (Projection)


ภาพที่ 2 ภาพของโปรแกรม


เป็นโปรแกรมที่น่าลองมาใช้ในการศึกษามากเลยนะค่ะ

โหลดโปรแกรมได้ที่นี่

ลิงค์เรียนรู้เพิ่มเติม :

แหล่งอ้างอิง :  http://www.share4yotha.org/board/thread-3783-1-1.html



วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คาบที่ 5 การบ้านวิชาการออกแบบกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์

ส่งแบบร่างของงานที่เราออกแบบบรรจุภัณฑ์ของแต่ละกลุ่ม และ
นำเสนองานออกแบบของตัวเองโดยใช้ Move Board เป็นสือในการนำเสนองาน

งานออกแบบบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มรองเท้าหนังจรเข้เผือก มีตัวอย่างงานสเก็ตดังนี้


ภาพที่ 1 ตัวอย่างของงานสเก้ตในการออกแบบกล่องบรรณจุภัณฑ์

ที่มา: กลุ่มรองเท้าหนังจรเข้เผือก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10201537366662381&set=gm.610576082306514&type=1&theater



ภาพที่ 2 ตัวอย่างของงานสเก้ตในการออกแบบกล่องบรรณจุภัณฑ์

ที่มา: กลุ่มรองเท้าหนังจรเข้เผือก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10201537366662381&set=gm.610576082306514&type=1&theater

สเก็ตงานเสร็จแล้วทุกคนในกลุ่มก้นำงานมาทำในโปรแกรมเพื่อนำมาทำงานเสนอในแบบ Move board
มีภาพตัวอย่างงานดังนี้


ภาพที่ 3 การออกแบบกล่องบรรณจุภัณฑ์

ที่มา: กลุ่มรองเท้าหนังจรเข้เผือก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10201537366662381&set=gm.610576082306514&type=1&theater



ภาพที่ 4 การออกแบบกล่องบรรณจุภัณฑ์

ที่มา: กลุ่มรองเท้าหนังจรเข้เผือก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10201537366662381&set=gm.610576082306514&type=1&theater

หลังจากการนำเสนองานในแบบ Move board อาจารย์ได้ให้เราไปออแบบผลิตภัฑณ์ โดยการสเก็ตหรือการใช้โปรแกรมในการออแบบผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแต่ละกลุุ่ม





คาบที่ 4 ของการเรียน วิชาการออกแบบกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์

อาจารย์ประชิดศึกษา  ส1 หมายถึงศึกษาข้อมูล

กลุ่ม 2 ของข้าพเจ้าทำการศึกษาเกี่ยวของมูลของรองเท้าหนังจระเข้เผือก


ภาพที่ 1 ภาพงานส1
ที่มา: นางสาวพันธกานต์ ตั้งสศินธรรม ,2556

ลิงก์ของไฟร์การนำเสนอ

https://docs.google.com/presentation/d/1TMdKftT58ZwAPCjq5ndgpk_cqAEmU3zQpm9oXw9gWRI/edit

และอาจารย์ได้มอบหมายให้ทำงานสเก็ตเพื่อนนำมาเสนอให้อาจารย์

มีภาพตัวอย่างงานสเก็ตดังนี้


ภาพที่ 2 ตัวอย่างงานสเก๊ต
ที่มา:อาจารย์ประชิด  https://www.facebook.com/prachid007?fref=ts

เป็นการการบ้านและนำเสนอหน้าชั้นและทำงาน Move board เพื่อนำเสนอแนวคิดในการ OTOP ที่ได้
หัสข้อตามกลุ่มของตัวเอง



วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คาบเรียนที่3 ของการเรียน วิชาการออกแบบกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์

สัปดาห์ที่ 3 ของการเรียน

อาจารย์ได้มอบหมายให้จับกลุ่มและในคาบเรียนได้ให้หัวข้อทำรายงานเกี่ยวกับสินค้า OTOP

ของจังหวัดกาญจนบุรี

กลุ่ม 2 ของเราได้เรื่อง รองเท้าตำบลจระเข้เผือก

งานที่ให้ทำนั้นออกแบบโลโก้ ของรองเท้าตำบลจระเข้เผือก อย่างน้อยต้องเท่ากับสมาชิกในกลุ่ม

และนำเนื้อหาที่หาได้มาลงในไฟร์ นำเสนอซึ่ง ความยาวห้ามมากว่า 2 หน้า

**งานที่ต้องแก้**

อาจารย์ให้แก้นามบัตรใหม่เนื่องจากไม่ตรงหัวข้อที่สั่ง


ในคาบเรียนมีการสอบ Pre-test ในห้อง

สอบครั้งแรกก่อนเรียนนั้นสอบได้ 18/40

ลงสอบที่เว็บ http://chandraonline.chandra.ac.th/claroline/


**สำรายงานข่าวให้คนที่รายงานแรกทำ แบบนำเสนอเพื่อที่จะสามารถโชว์ข่าวสารที่ตัวเองจะนำเสนอ

เพียงเรื่องเดียว พอสำหรับการนำเสนอข่าว**

**งานหรือตัวอย่างงานตอนนี้สามารถโหลดได้จ้าไปที่ ไดร์ฟ เพื่อดาวโหลดได้**

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แปลข่าวแบบร่าง


Hither & Yon




"Hither & Yon is the result of Richard and Malcolm Leask's unwavering passion to deliver the best



possible wine from South Australia's McLaren Vale wine region. With vineyards scattered high and



low throughout the entire range of McLaren Vale's diverse terrors’, the Leask brothers seek out the



finest parcels of fruit from each vintage for their wine making adventures.



Hither & Yon นั้นเกิดจาก นาย ริชาร์ด และ นางเมลคอร์ม ลีกซ์


ได้ใช้ตั้งใจในการความรักของพวกเขาที่จะส่งไวน์ที่ดีที่สุดจ


ากทางตอนใต้ของออสเตรเลียในภูมิภาคแม็คลาเรนไวน์


 ทางไร่องุ่นที่อยู่ทั้งพื้นที่ราบต่ำและสูงของทั่วตลอดพื้นที่ของทางแม็คลาเรนไวน์



พี่น้องลีกซ์ทั้งคู่นั้นได้คัดหาผลองุ่นที่ดีที่สุด



จากทั่วทั้งพื้นที่ของผลไม้ของมันเพื่อทำเหล้าองุ่นสำหรับทำไวน์



ทั้งคู่จึงได้เริ่มออกตามหาเพื่อสร้างมัน



That was all the inspiration Voice needed to create the brand, Hither



& Yon, producing a design that reflected the constant diversity and



unexpected pleasures of the wine within.The symbolic ampersand



derived from the name gives the range consistency, whilst allowing



infinite variations in typography and illustrative style. Using a different



illustrator, from a different part of the globe every time, a unique



ampersand is created to represent the tasting notes of each variety and



vintage—expressing colour, nose and palette."



นี่คือสิ่งทั้งหมดที่เป็นเหมือนเสียงสะท้อนที่ทำให้เกิดแรง



บันดาลใจที่จำเป็นในการสร้างแบรนด์ “Hither & Yon”



ของพวกเค้าเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความห



ลากหลายอย่างต่อเนื่องและความสุขที่ได้จากความลิ้มรสจากไวน์



เครื่องหมายที่เห็นนั้นเป็นสัญลักษณ์



เป็นชื่อที่ให้ความหมายสอดคล้องกับคำว่าไม่มีที่สิ้นสุดในด้านการออกแ



บบการพิมพ์และเป็นข้อมูลประกอบ ถึงการใช้ลายการ์ตูนที่แตกต่างกัน



ที่ได้มาจากส่วนต่างๆของมุมโลกทุกครั้ง เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้นักชิมไวน์



ได้รู้ถึงความแตกต่างในแต่ละเหล้าไวน์องุ่น ของสีและกลิ่นของไวน์



"As each variety is unique, a single ampersand only exists to express that vintage—it’s never repeated. The type, Hither/



Yon positioning is dynamic continuing the notion of searching here and there.



Further drawing upon the philosophy of here and there, the brand identity evolved into the cellar door by creating an



environment from sourcing furniture, objects, material, etc. from anywhere and everywhere.



A truly holistic brand, Voice created the name, brand language, packaging, website and cellar door experience."



“ในแต่ละหลายๆที่นั้นมีความหลากหลายไม่ซ้ำกัน มีเพียงเจ้าเดียวที่แสดงถึงแบรนด์เหล้าองุ่นที่ไม่เคจซ้ำใคร Hither & Yon



เรียกได้ว่าเป็นไวน์ ที่ได้รับกระแสอย่างต่อเนื่องทั้งทางด้านความสนใจและความต้องการในการค้นหาของคนที่นี่



ได้ถูกเพิ่มเติมตามปรัชญาและมีเอกลักษณ์ของแบรนด์ของที่นี่ได้เปรียบกลายเป็นโครงสร้างของประตูที่แข็งแรงซึ่งได้ถูกสร้



างจากการจัดหา ฟอนิเจอร์ วัสดุ วัตถุ ฯลฯ จากทุกๆที่



แบรนด์นี้ชื่อเสียงที่ดีมาจากองค์ประกอบรวมที่แท้จริงซึ่งสร้างชื่อมาจาก การทำบรรจุภัณฑ์ เว็บไซต์



และประสบการณ์ของพวกเขาที่ได้สะสมมา”



แหล่งอ้างอิงจาก : http://www.thedieline.com/blog/2013/6/11/hither-yon.html?SSScrollPosition=255







I legumi d'italia

By CBA Italy



background

Annalisa was founded in the mid 1930s and today is one of the most important Italian brands of peeled tomatoes and

preserves, recognised for its genuiness and attention to tradition. Passion and craftsmanship, together with dynamism and

entrepreneurial challenges, have further contributed to Annalisa’s success until today.

ประวัติพื้นหลังความเป็นมา

` Annalisa ได้ก่อตั้งในช่วงกลางทศวรรษที่ 1930 และในปัจจุบันนี้

มันเป็นแบรนด์หนึ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุดใน แบรนด์ของที่นั่นเมืองแห่งมะเขือเทศ

และได้รับการยอมรับว่าเป็นของดั่งเดิม และให้ความสนใจในประเพณีของที่อิตาลี ความต้องการ

และความเป็นมืออาชีพของพวกเขาได้รวบรวมคนและเกิดเป็นความท้าทายใหม่ๆให้ผู้ประกอบการ

ให้เกิดการร่วมมือจนเกิดเป็น Annalisaจนถึงวันนี้




brand vision

After re-launching the Brand Annalisa decided to focus on safeguarding Italian biodiversity by supporting Slow Food

and by helping to increase awareness of typical Italian products. The initiative led to “I legumi d’italia” (Italian pulses),

a new line of pulses from various Italian regions on line with the Annalisa Brand’s DNA thanks to their simplicity and

genuineness.




วิสัยทัศน์ของแบรนด์

หลังจากที่พวกเขาได้เปิดแบรนด์ใหม่ในชื่อของ Annalisa พวกเค้าได้ตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปในส่วนของ

พืชผลผลิต โดยการถนอมอาหาร และช่วยให้ได้หลายๆคนได้ ตระหนักถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆในอาหารอิตาเลี่ยนทั่วๆไป

จนได้นำไปสู่ “I legumi d’italia” (กระแสของอาหารอิตาเลี่ยน) เป็นเส้นทางของคลื่นลูกใหม่ที่เกิดในภูมิภาคของอิตาเลี่ยน

และ สอดคล้องกับ ยี่ห่อ Annalisa DNA ที่แสดงให้ถึงความเรียบง่ายและความจริงใจของพวกเขาที่ได้ทำมันขึ้นมา



design solution

The pack showcases the product and tells its story, leveraging the values of the new pulses line: genuiness and quality

are supported by the use of transparent glass jar and the black top. The line is in touch with Annalisa personality, a Brand

that cares for quality and taste signs and endorses a line inspired by protecting biodiversity and safeguarding the culinary

tradition of bygone days.

วิธีการออกแบบผลิตภัณฑ์

แพ็คนำเสนอผลิตภัณฑ์และบอกเล่าเรื่องราวของการใช้ประโยชน์จากค่าของเส้นชีพจรใหม่:

genuiness และคุณภาพได้รับการสนับสนุนโดยการใช้ขวดแก้วใสและสีดำด้านบน

เส้นที่อยู่ในการติดต่อกับ Annalisa

บุคลิกภาพของตราสินค้าที่ให้ความสำคัญสำหรับสัญญาณที่มีคุณภาพและรสชาติและราชบัณฑิตเส้นแรง

บันดาลใจจากการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและการป้องกันประเพณีการทำอาหารของอดีตวัน

รูปแบบที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้บอกเล่าถึงการใช้ประโยชน์ของความหมายของคลื่นลูกใหม่

ที่แสดงให้รับรู้ถึงความต้องการ และคุณภาพ โดยการใช้ขวดแก้วสีใส และบนฝาปิดขวดสีดำ

และใช้ลายเส้นที่สัมผัสอ่านเข้าใจง่ายของ Annalisa

บ่งบอกถึงคุณภาพของตราสินค้าที่ได้รับความดูแลให้ความสำคัญเป็นอย่างดี

คุณภาพและรสชาติที่ได้ถูกรับรอง ที่ได้ผลลัพท์มาจากการดูแลพืชภัณฑ์อย่างมีคุณภาพ

และรักษาประเภณีในการทำอาหารในอดีตได้เป็นอย่างดี

อ่างอิงจาก : http://www.cba-be.com/en/projects/i-legumi-ditalia/


Saltimbanco



SALTIMBANCO is a garage project of an italian winemakers and a partner. The circus concept is



because this project is for his own pleasure and fun but without loosing the artistic and balance idea



that is requested to create a cult wine.




SALTIMBANCO เป็นโปรเจคโรงงานผลิตของผู้ผลิตไวน์ในประเทศอิตาลีและหุ้นส่วนของเค้า



แนวคิดของเค้านั้นเป็นรูปแบบของคณะละครสัตว์



เพราะโครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อสร้างความสุขของตัวเขาเองและ



เขาทำมันขึ้นโดยไม่สูญเสียความคิดของศิลปะและความสมดุลเขาได้คิดในการสร้างไวน์ขึ้นมา


อ้างอิงจาก : http://www.thedieline.com/blog/2012/11/22/saltimbanco.html